เปิดแล้ว!!! แชมป์ The Mask Singer Season 2 "หน้ากากซูโม่" คนที่คุณก็รู้ว่าใคร
และโม่ว่า... เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ เพราะเธอคือ “ลิเดีย ศรัณย์รัชต์” เจ้าของฉายา เจ้าหญิงอาร์แอนด์บีเมืองไทย ซึ่งแน่นอนว่าเธอกำลังจะได้เป็นเจ้าหญิงของ The Mask Singer เช่นกัน ด้วยเสียงร้องขึ้นจมูกอันเป็นเอกลักษณ์ และเทคนิคการร้องชั้นเลิศ ที่ใครได้ยินเป็นต้องเอามือทาบอก จึงทำให้เธอได้แชมป์ไปอย่างไม่น่าสงสัย
หน้ากากซูโม่เปิดตัวด้วยเพลง Time To Say Goodbye ของ Sarah Brightman ที่ไม่มีใครคาดถึงว่าจะมีนักร้องหญิงเมืองไทยร้องโอเปร่าได้เพราะจับใจขนาดนี้ แถมยังไม่มีกรรมการคนไหนเดาถูกว่าเป็นเธอเลยด้วย และในรอบต่อๆ มาหน้ากากซูโม่ เลือกประชันกับคู่แข่งด้วยเพลง Lovin' You ของ Minnie Riperton, ดาวเรืองดาวโรย ของ พุ่มพวง ดวงจันทร์, Girl On Fire Alicia Keys, ลาวดวงเดือน และล่าสุดเพลง บัวลอย ของ คาราบาว
หน้ากากซูโม่ เป็นหน้ากากที่โดดเด่นตั้งแต่เปิดตัว ไม่ใช่แค่เสียงร้องที่มัดใจคนดูเท่านั้น แต่คาแรกเตอร์น่ารักแสนซน รวมทั้งการตอบคำถามที่ฉะฉาน มีอารมณ์ขัน จึงทำให้หลายคนชอบเธอมากๆ และวลีที่เธอเรียกแทนตัวเอง “โม่ว่า” ก็ฮิตชั่วข้ามคืนทันที
และไหนๆ ก็เปิดหน้ากากทั้งที ทีมข่าวเวิร์คพอยต์จึงเก็บบทสัมภาษณ์ “หน้ากากซูโม่”มาฝากกัน
โม่ว่า… ลิเดียไม่ได้ขี้เล่นขนาดนี้นะ
รายการนี้มันทำให้เราได้ออกมาจากกล่องที่ครอบเราอยู่ นั่นคือ ความเป็นลิเดีย The Mask Singer ทำให้เราได้ร้องเพลงใหม่ๆ ที่เราไม่เคยร้อง หรือไม่มีโอกาสที่จะได้ร้อง แลทำให้เราได้ปลดปล่อยอีกด้านนึงของตัวเองด้วย ซึ่งบอกเลยว่า ไม่ใช่คนซีเรียสตลอดเวลา และมีความขี้เล่นในตัวด้วย แน่นอนว่าคนเรามันก็ต้องมีหลายมุม
รู้สึกอย่างไรที่ได้เป็นแชมป์ The Mask Singer Season 2
พอมีลูก เราไม่มั่นใจว่าตัวเองจะกลับมาร้องเพลงหรือทำงานในวงการบันเทิงได้หรือเปล่า คนอาจจะคิดว่าผู้หญิงมีลูกแล้ว อยู่บ้านเลี้ยงลูกดีกว่า จะมาร้องเพลงหรือเล่นคอนเสิร์ตไหวเหรอ ก็ต้องบอกเลยว่ารายการนี้ ทำให้เราได้กลับมาร้องเพลงอีกครั้ง ได้พิสูจน์กับตัวเองและคนอื่นว่า ถ้าเราตั้งใจอยากจะทำอะไรจริงๆ มีความมุ่งมั่น ความพยายาม และความขยัน เราทำได้หมด
ที่มาที่ไปของหน้ากากซูโม่
อย่างที่ทุกคนคิดเลยคือ ดีแลน เขาตัวใหญ่ เราเลยเรียกเขาว่า เด็กยักษ์ แต่ถ้าจะให้ใส่เป็นหน้ากากยักษ์ มันก็จะชัดเกินไป อีกอย่างดีแลนตัวเขาเป็นมัดๆ ก็เลยเลือกซูโม่แทน และมันก็เป็นคาร์แรกเตอร์ของพวกเราในครอบครัวด้วย รูปร่างหน้าตามาจากน้องดีแลน นิสัยและคำพูดคำจามาจาก พี่แมทธิว ส่วนเสียงร้องมาจากตัวเรา เลยรวมตัวกันมาเป็นหน้ากากซูโม่
เสียงโม่ชัดแบบนี้ปิดคนรอบตัวอย่างไรบ้าง
นี่เป็นสิ่งที่กลัวที่สุดเลย กับการมาออกรายการนี้ เพราะคิดว่าคนก็จะจำเสียงได้ เราเลยต้องสร้างคาแรกเตอร์ของซูโม่ให้มันสวนทางกับสิ่งที่ทุกคนคิดว่าเราเป็น
โม่ว่า… โม่เกิดมาเพื่อร้องเพลง
เรารักการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ เลย เพราะว่าเกิดมาก็มีคีย์บอร์ดอยู่ในบ้านแล้ว ส่วนคุณพ่อก็เป็นคนชอบเล่นกีต้าร์ เราเลยโตมากับเสียงเพลง แล้วตัวเองเรียนร้องเพลงตั้งแต่ 10 ขวบ
ก็เลยใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้อง
เมื่อโม่...เป็นแม่
การเป็นแม่ทำให้มีความรับผิดชอบมากขึ้น เพราะมีอีกหนึ่งชีวิตที่ต้องพึ่งเรา มันทำให้เราเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง แต่สิ่งที่คิดว่าสำคัญที่สุดคือ การที่มีลูกไม่ได้หมายความว่าชีวิตคุณจะต้องหยุด คุณยังทำอะไรทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณอยากจะทำได้อยู่ เพียงแคมุ่งมั่นและตั้งใจทำ ก็จะไม่มีอะไรหยุดคุณได้
มุมมองแบบโม่
เราต้องเอาแต่สิ่งที่เป็นพลังงานบวกเข้ามาในชีวิตเรา เพราะถ้าเรารับทุกอย่างที่เป็นลบชีวิตก็จะลบ แต่สิ่งที่ลบๆ มันต้องมีแน่นอน เพียงแต่เราต้องรู้จักวิธีจัดการกับมัน แบะถ้ามีพลังบวกอยู่แล้ว ก็น่าจะผ่านทุกอย่างในชีวิตไปได้
โม่ว่า... โม่ทิ้งทายอะไรซักหน่อยดีกว่า
ก็ต้องขอบคุณแฟนๆ รายการและคนไทยทั่วประเทศที่ติดตามรายการนี้ รวมถึงที่ต่างประเทศด้วย ขอบคุณที่ให้กำลังใจและเชื่อมั่นในตัวเราอยู่
